วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2552

กลอนลดโลกร้อน


ถึงหน้าหนาวก็หนาวจนตัวแข็ง
ถึงหน้าร้อนก็ไม่แล้งพอทนไหว
แต่ตอนนี้สภาพอากาศแปรเปลี่ยนไป
ถึงหน้าร้อนเมื่อไหร่ไร้น้ำกิน
**************************
โลกนั้นร้อนจนคนเราแทบละลาย
คนอยากตายหันทางใดแห้งแล้งสิ้น
พืชและผักต่างล้มตายทั่วแดนดิน
เราคงสิ้นหากโลกร้อนโลกละลาย
**************************
ใครๆ บอกให้ช่วยกันลดโลกร้อน
มัวแต่นอนตีพุงลดได้ไหม
ต้องช่วยกันคนละมือคนละไม้
โลกสดใสคนสดชื่นชื่นมื่นกัน
****************************
ไม่ควรเกี่ยงให้คนโน้นและคนนี้
คนที่ดีมีสำนึกอย่าแค่ฝัน
ตื่นขึ้นมาช่วยโลกเราก่อนไม่ทัน
มิเช่นนั้นถ้าโลกร้อนเราจะตาย

นั่งรำพึงคิดถึง "ครู"

หรือโรงเรียนของเราไม่น่าอยู่ ?


จึงไม่มีคุณครูที่เคยเห็น


ที่มีอยู่ ก็ไม่ใช่ที่เคยเป็น


เหมือนว่าใครแอบแฝงเร้นในตัวครู


ครูของเราคนเก่า เราจำได้


ยังคลับคล้าย คลับคล้ายได้ดีอยู่


ใครคนหนึ่ง ซึ่งรักศิษย์คิดอุ้มชู


ไม่หล่อสวยรวยหรู แต่ใจดี


อยู่โรงเรียนหลังเก่าครูก็เก่า


กันดารไกลในป่าเขา ไร้แสงสี


ถิ่นไทยในป่ากว้างกลางพงพี


นั่นเทียนน้อยริบหรี่กลางลมแรง


เป็นเรือแจว เรือจ้างกลางน้ำเชี่ยว


ยุคสมัยแปลกเปลี่ยวเข้าแอบแฝง


โรงเรียนเก่าของเราก็เปลี่ยนแปลง


เป็นโรงเรียนราคาแพงพัฒนา


ยุคนีออนสมัยแต่ใจมืด


คุณธรรมเคืองฝืดทุกหย่อมหญ้า


เมื่อความรู้ขายได้เหมือนผักปลา


ก. ขอ ก. กา เป็นเงินทอง


จึงเรือจ้างวางแจวไว้ริมท่า


เสียงเรือด่วนคำรามมาสนั่นก้อง


รวดเร็ว โลดแล่นในครรลอง


แสงเทียนหม่นหมองทุกถิ่นไทย


หรือโรงเรียนของเรา ไม่น่ารัก ?


ครูใจดีเคยรู้จักหายไปไหน


มาโรงเรียนวันนี้ไม่มีใคร


เปลี่ยวใจ นั่งรำพึงคิดถึง "ครู"